โอเพ่นชิฟต์ (Openshift) มีระบบจัดการ rhc ที่สามารถติดตั้งบนเครื่องได้ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าคุ้นเคยกับการใช้คอมมานด์ไลน์ (command line) บนเซิร์ฟเวอร์มากกว่า
เมื่อติดตั้งแอพพลิเคชันผ่าน โอเพ่นชิฟต์ เว็บคอนโซล (Web Console) และเชื่อมต่อซอร์สโค้ดกับกิต (git) ก็จะต้องติดตั้ง ssh key แล้วเช่นกัน คีย์นี้สามารถนำไปใช้เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้ โดยเข้าไปที่แอพพลิเคชัน บนเว็บคอนโซล จะแสดงคำสั่งที่ใช้เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบ
ssh <รหัสแอพ>@<ชื่อแอพ>-<โดเมนของเรา>.rhcloud.com
และเนื่องจากใช้คีย์ ssh จึงไม่ต้องกรอกรหัสผ่าน
เมื่อเข้าได้ จะสามารถดูข้อมูลต่างๆในเครื่องได้ทั้งหมด แต่การสร้างไฟล์ใหม่ จะทำได้เฉพาะในไดเรกทอรี app-root/data เท่านั้น พื้นที่เก็บข้อมูลถูกจำกัดไว้ที่เบื้องต้น 1 GB
ส่วนหล็อกไฟล์ (log file) จะอยู่ที่ app-root/logs จะมีหล็อกของ cron, haproxy และแอพพลิเคชัน ในที่นี้ได้ติดตั้ง ทอมแคต (Tomcat) 7 ก็จะมีหล็อกที่นี่เช่นกัน
บางครั้งการพุช (push) ซอร์สโค้ดขึ้นไปเพื่อดีพลอย (deploy) อาจจะเกิดปัญหา ก็จะดูหล็อกได้เบื้องต้นว่าเกิดปัญหาอะไรบ้าง
ในกรณีของเว็บแอพพลิเคชัน
- ดูว่า haproxy มีปัญหาหรือไม่ โดยเข้าไปที่ http://<ชื่อแอพ>-<โดเมนของเรา>.rhcloud.com/haproxy-status/ เพราะ haproxy คือหน้าด่านในการเข้าถึงเว็บเบื้องหลัง
- ตรวจสอบเว็บแอพพลิเคชันว่าเกิดรันไทม์เอ็กเซ็พชัน (RuntimeException) หรือไม่ เพราะบางครั้งทอมแคตจะอุบเงียบ วิธีการเข้าถึงต้องสังเกตตอนดีพลอย เมเว่น (Maven) จะบอกว่าเว็บเรานั้นถูกดีพลอยไว้ที่ไอพีและพอร์ตอะไร ในตอนท้ายๆของการดีพลอย เช่น remote: Found aaa.bbb.ccc.ddd:8080 listening port
- ถ้าอยากลองรีสตาร์ตแอพพลิเคชัน เพื่อดูผลลัพธ์เบื้องต้นให้ใช้คำสั่ง ctl_app restart ระบบจะแจ้งว่ามีระบบอะไรที่สามารถจัดการได้บ้าง ก็ใส่ตัวเลขที่อยู่ด้านหน้าระบบนั้นๆ เครื่องจะทำการรีสตาร์ตระบบนั้นๆให้
ctl_app สามารถใช้จัดการอื่นๆได้ด้วย ดูคำสั่งย่อยได้โดยการใช้คำสั่ง ctl_app โดยไม่ระบุ คำสั่งย่อย
สแลช (SLASH)